เหรียญมี 2 ด้านฉันใด การขายฝากก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ที่โด่งดังมีทั้งโดนนายทุนยึดทรัพย์ ฆ่ายกครัว ขายฝากคือบริการทางการเงินโดยใช้ทรัพย์เป็นหลักค้ำประกัน ได้รับเงินไว ไม่เช็คประวัติทางการเงิน มีข้อเสียที่ควรต้องศึกษาอย่างไรบ้าง
1 ในการทำธุรกรรมขายฝากนั้น เมื่อทำธุรกรรมเสร็จ แปลว่า ทรัพย์ได้โอนกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของไปสู่ผู้ซื้อฝากแล้ว แต่มีกำหนดระยะเวลาให้ผู้ขายฝากสามารถมาซื้อคืนได้
- แปลง่ายๆ คือ ทรัพย์นั้นได้ตกเป็นของผู้ซื้อฝากแล้ว เมื่อครบกำหนด ไม่ได้ไถ่ถอน ผู้ซื้อฝากสามารถยึดครองได้ โดยไม่ต้องฟ้องร้องใดๆกับศาลทั้งนั้น หรือง่ายๆ ว่ายึดได้ทันที
2 การกำหนดระยะเวลาขายฝากนั้น ลูกค้าควรมาไถ่ถอนอย่างน้อย 15 วันก่อนครบกำหนดเพื่อป้องกันปัญหา
- ปัญหาผู้ซื้อฝากรับปากจะขยายสัญญาขายฝากให้ แต่ถึงกำหนดกลับเปลี่ยนใจไม่ต่อสัญญาต้องการเงินไถ่ถอนคืนเท่านั้น (ทำให้ลูกค้าหาเงินไม่ทันและทรัพย์ตกเป็นของผู้ซื้อฝากทันที)
- ปัญหาการติดต่อนายทุนไม่ได้ หรือนายทุนอ้างไม่ว่างจะไปต่างประเทศและนัดต่อสัญญาทีหลัง (ตกลงปากเปล่า) สุดท้ายไม่ทำตาม ลูกค้าโดนยึดทรัพย์
3 การทำขายฝากในวงเงินที่สูงมาก ทำให้ต้องจ่ายผลตอบแทนที่สูง และลูกค้าไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ หรือเปลี่ยนนายทุนได้
4 ควรทราบว่า ผลตอบแทนจากการทำขายฝากตามที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 15%
5 ควรเลือกทำขายฝากกับบุคคลหรือบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันปัญหาในการขยายสัญญาหรือไถ่ถอน (เงื่อนไขไม่เป็นไปตามที่ตกลง) ควรเลือกผู้ซื้อฝากที่มีที่อยู่ติดต่อได้ง่าย หรือบริษัท ที่มีรูปแบบการทำธุรกิจตายตัว เช่น Luxe Loans ต้องการแค่ผลตอบแทน ไม่ต้องการยึดทรัพย์ กรณีลูกค้ามีปัญหาไม่สามารถไถ่ถอนให้ ก็มีนโยบายในการช่วยแก้ไขปัญหาเพื่อผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ทางคุณลูกค้า
6 เอกสารโฉนด เอกสารส่วนตัว รูปถ่าย ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนส่งให้ใคร เพื่อไม่ให้ข้อมูลของท่าน เป็นข้อมูลเปิดบนสื่อ social ต่างๆ
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ดีที่สุด คือการให้การขายฝากเป็นทางเลือกทีหลังสุด จำเป็นจริงๆทำจำนองดีกว่า และถ้าจะเลือกทำขายฝากจริงๆ ควรเลือกในวงเงินที่รับความเสี่ยงได้ หรือยินดียอมรับกับผลที่ตามมาหรือเลือกผู้รับขายฝากก่อนทำธุรกรรม